ไหนๆก็วีคสุดท่้ายแล้วววว
มาดูกันว่าอาชีพแอร์โฮสเตสเป็นยังไงงงงง
อะไรยังไง
จะได้มารู้กันในบล็อคนี้
ซึ่งเป็นอาชีพที่ฉันใฝ่ฝันมากมายยยยยยย
ฉันจะต้องเป็นให้ได้
♥♥♥♥
เอาใจช่วยด้วยนะคะอิอิ
ก่อนอื่นเราก็ต้องมารู้คุณสมบัคิว่าจะไปเป็นได้อย่างไรกันก่อนนะคะ
คุณสมบัติที่จะนำไปสู่การเป็นแอร์โฮสเตส
--> คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ
แอร์โฮสเตส และ สจ๊วต เป็นอาชีพที่ให้บริการแก่ผู้โดยสาร ฉะนั้น ผู้ที่ประกอบอาชีพทางด้านนี้ ยังควรมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น
มีบุคลิกดี ยิ้มง่าย ใจเย็น อ่อนหวาน และต้องมีเชาว์ไหวพริบ กล้าตัดสินใจกรณีมีเหตุฉุกเฉิน ผู้หญิงสูง 160 เซนติเมตรขึ้นไป ผู้ชายสูง 165 เซนติเมตรขึ้นไป รูปร่างสมส่วน ไม่อ้วนไม่ผอมจนเกินไป สายตาใช้การได้ดี ต้องไม่สวมแว่น แต่ถ้าสายตาสั้นเล็กน้อย หาคอนแทคเลนส์ใส่ได้ ส่วนเรื่องหน้าตา เน้นหน้าตารับแขกมากกว่าความสวยงามหรือสรุปเป็น ดังนี้
การเตรียมความพร้อมก่อนปฏิบัติการบิน
จาก การที่ได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์ลูกเรือ (Crew center) ที่อาคารศูนย์ปฏิบัติการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เห็นได้ชัดเจนว่า เน้นเรื่องความปลอดภัยอย่างรัดกุม และมีการเตรียมความพร้อมของพนักงานก่อนปฏิบัติการบินเพื่อการให้บริการอย่าง มีประสิทธิภาพ โดยพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะต้องมาถึงที่ศูนย์ลูกเรือ (Crew center) อย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนเวลา Deperture Time ของเที่ยวบินเพื่อมาฟังการสรุปข้อมูล (Briefing) เกี่ยวกับ Emergency ขั้นตอนการบริการ รวมทั้งรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีการกำหนดหน้าที่การปฏิบัติงานอย่างชัดเจน
คุณสมบัติของผู้สนใจสมัครตำแหน่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
จำนวน อัตราที่ ต้องการรับสมัครในตำแหน่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และการกำหนดระยะเวลาการจ้างของพนักงานขึ้นกับนโยบายของบริษัท ส่วนข้อมูลคุณสมบัติเบื้องต้นที่มีการกำหนดที่ผ่านมามีดังต่อไปนี้
คุณสมบัติทั่วไป
ผู้สมัครหญิง
- สัญชาติไทย สถานภาพโสด
- อายุไม่เกิน 26 ปี
- ความสูงไม่น้อยกว่า 160 เซนติเมตร และน้ำหนักต้องได้สัดส่วนกับความสูง
- สามารถว่ายน้ำได้อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 50 เมตร โดยต้องว่ายท่าฟรีสไตล์ได้ด้วย
ผู้สมัครชาย
- สัญชาติไทย สถานภาพโสด ผ่านหรือได้รับการยกเว้นการเกณฑ์ทหาร ตามระเบียบของทางราชการแล้ว
- อายุไม่เกิน 28 ปี
- ความสูงไม่น้อยกว่า 165 เซนติเมตร และน้ำหนักต้องได้ส่วนกับความสูง
- สามารถว่ายน้ำได้อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 100 เมตร โดยต้องว่ายท่าฟรีสไตล์ได้ด้วย
คุณสมบัติอื่น
- วุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ไม่จำกัดสาขา ผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศต้องมีหนังสือรับรองการเทียบวุฒิจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษามาแสดงพร้อมกันด้วย
- ผ่านการทดสอบข้อเขียนภาษาอังกฤษ Test of English for International Communication (TOEIC) 600 คะแนนขึ้นไป หรือ Test of English as a Foreign Language (TOEFL) 500 คะแนนขึ้นไป หรือ
- International English Language Testing System (IELTS) 5.5 คะแนนขึ้นไป ผลการทดสอบข้อเขียนภาษาอังกฤษดังกล่าวต้องไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันที่ยื่นใบสมัคร
- มีความรู้ความสามารถในการพูดและเข้าใจภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี และ หากมีความสามารถในการสื่อสารภาษาต่างประเทศอื่นนอกเหนือจากภาษาอังกฤษด้วย โดยเฉพาะภาษาจีน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาเลียน ญี่ปุ่น และสเปน จะเป็นประโยชน์ในการพิจารณา
- สุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง ไม่สวมแว่นสายตา
- มีมนุษย์สัมพันธ์ดี มีความกระตือรือร้น เอาใจใส่ และรักงานบริการ
- มีบุคลิกภาพดีและเหมาะสมในการเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
--> การทำงาน
การทำงานของแอร์โฮสเตสและสจ๊วตนั้น เป็นเวลาที่ไม่แน่นอนไม่เลือกกลางวันหรือกลางคืน ขึ้นอยู่กับเที่ยวบินหรือสายการบินที่จะเดินทาง ว่าจะออกกี่โมงและในการเดินทางแต่ละครั้งทั้งสจ๊วต และแอร์โฮสเตสจะต้องกำหนดเวลาในการเดินทางไปสนามบินเผื่อไว้ทุกครั้ง โดยจะต้องเดินทางไปถึงสนามบินก่อนเครื่องบินออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อเตรียมตัวและไม่ตกเครื่องบิน แอร์โฮสเตสและสจ๊วตจึงต้องเป็นผู้มีความรับผิดชอบอยู่สูง
-->การเตรียมตัว
ภาษาอังกฤษเป็นหลัก วุฒิการศึกษาจบ ม.6 ทั้งสายวิทย์หรือศิลป์ แต่ 90% ของผู้สมัคร มักจบปริญญาตรีขึ้นไป อาจเพราะผู้ผ่านการศึกษาระดับนี้ มีประสบการณ์มากกว่า
ด้านสุขภาพที่อาจส่งผลในอนาคต
เครื่องบินสมัยนี้ สะดวกสบายและทันสมัยจนผู้โดยสาร (ซึ่งมีเบาะนุ่มๆ รองก้นอยู่ด้วย) แทบจะไม่รู้สึกถึงความสั่นสะเทือนขณะเครื่องบินลอยเท้งเต้งอยู่บนฟ้า แต่แอร์โอสเตสและสจ๊วตซึ่งเดินไปเดินมา ถ้าไม่ถือกาใส่ชากาแฟหนักไม่ต่ำกว่า ๒ กิโลกรัม ก็ต้องเข็ดคาร์ดใส่อาหารและเครื่องดื่มมาเต็มอัตราจะรู้ว่า พื้นเครื่องบินมันไม่ได้อยู่นิ่งให้เดินเหินไปมาได้สะดวก งานบริกการบนเครื่องบินจึงเหนื่อยล้าง่ายกว่าบนพื้นปกติ
ถ้าอยู่ๆ เครื่องบินสั่นหรือกระตุกขึ้นมาอย่างแรงโดยไม่มีการเตือน พวกเขามีสิทธิ์ได้รับอันตรายอย่างยิ่ง ถ้าทรงตัวได้ก็อาจจะแค่น้ำหก ล้ม กระแทกนิดหน่อย แต่บางคนโชคร้าย ถึงขนาดรถเข็นล้มทับขา หนักหน่อยก็แค่ลอยขึ้นไปกระแทกเพดานบิน แล้วหล่นอั๊กลงมา
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับแอร์โฮสเตส แต่จะไม่เกิดขึ้นกับผู้โดยสารหากจังหวะนั้น ไม่ลุกขึ้นเดินไปเดินมา
"ถ้าเทอบูแลนซ์หนักๆ เครื่องจะส่ายอย่างแรงเหมือนคลื่นยักษ์มา ทุกคนต้องนั่งอยู่กับที่ รัดเข็มขัด ไม่งั้นเราอาจจะจะลอยติดเพดานเหมือนเพื่อนเราเคยเจอ กาแฟร้อนๆ สาดโดนผู้โดยสาร แอร์ฯเจ็บตัว บริษัทก็ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลให้ผู้โดยสาร ถ้าเขาเข้าใจไม่ถือโทษก็ดี แต่บางคนก็ไม่เข้าใจ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เพราะการเทอบูแลนซ์มันไม่ใช่ความผิดของเรา" แอร์โฮสเตสสายการบินไทยเล่าเหตุเทอบูแลนซ์สดๆ ร้อนๆ ที่ฮ่องกงให้ฟัง
|
ก็ประมาณนี้ค่ะ ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ หวังว่าคงได้ประโยชน์กันไปไม่มากก็น้อย
คือว่าฉันก็ไม่ค่อยรู้ข้อมูล
เท่าไหร่หรอก
แต่ว่า
ฉันว่าฉันมีความสามารถพอที่จะเป็น
จากการที่กล่าวมาข้างต้น
แม้ภาษาจะไม่ได้ดีมากมาย
https://sites.google.com/site/mamixzer/kar-dulae-sukhphaph-khxng-xaer-hostes
https://sites.google.com/site/mamixzer/kar-dulae-sukhphaph-khxng-xaer-hostes